ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี  เปิดเผยกลุ่มธุรกิจที่คาดว่ามาแรงในปี 2566 จากการที่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการรับมือโรคระบาดที่ผ่านมา โดยมีการเปิดประเทศให้ชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ทำให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตมากขึ้นจึงทำให้เกิดเทรนด์ธุรกิจน่าลงทุน 6 เทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโอกาสทางธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2566 นี้

1.ธุรกิจสุขภาพและความงาม การสร้างแบรนด์สินค้าความงาม

ในวิกฤติที่สร้างความเครียดให้กับประชาชน มักจะเกิดเหตุการณ์ Lip Stick ซึงเป็นปรากฎการณ์ที่ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าความงามเพื่อทำให้ตัวเองดูดี ดังนั้นถึงแม้สถานการณ์กว่า 2 ปีที่ผ่านมเกิดวิกฤติโรคระบาดที่เกิดขึ้นผู้บริโภคก็ยังคงจับจ่ายสินค้าเพื่อใช้ดูแลสุขภาพผิวพรรณได้เองที่บ้าน

สำหรับในปี 2566 การที่สามารถออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้แล้วก็ยิ่งทำให้ธุรกิจนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่น สปา นวดไทย นวดหน้า คลีนิคความงาม ฟิตเนส เพราะผู้คนต้องออกจากการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ เช่น เที่ยวทิพย์ ประชุมออนไลน์ เกิดการพบปะหน้าต่อหน้ากับตัวจริง ยิ่งทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าในการดูแลความงามสูงขึ้นกว่าช่วงที่เกิดโรคระบาด

2.สร้างแบรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์

เนื่องจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมถอยลง ทำให้คนกลับมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพื่อจะมีสุขภาพที่ดี ท่ามกลางมลภาวะต่างๆ หรือแม้แต่การเกิดโรคระบาด จึงมีความต้องการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและประโยชน์ต่อโลก(Sustainable) ดังนั้น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพจึงได้รับความนิยม รวมไปถึงเครื่องปรุงคุณภาพ เช่น กลุ่มโซเดียมต่ำ โปรตีนจากพืช วัตถุดิบอาหารที่ได้มาจากการปลูกพืชที่ไม่ได้เกิดจากการเผาไร่หรือทำลายผิวดิน อาหารที่ลดการใช้สารเคมีทั้งในอาหาร และไม่ทิ้งสารเคมีไว้ให้สิ่งแวดล้อม 

3.ธุรกิจการค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์

จากนโยบายล็อคดาวน์เมืองของรัฐบาลทั่วโลกในช่วงโควิดระบาด ทำให้ผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชอปปิ้งจากออฟไลน์มาเป็นแบบออนไลน์อย่างฉับพลัน และเนื่องจากความสะดวกในการจับจ่ายผ่านออนไลน์ พฤติกรรมใหม่จึงกลายเป็นนิสัยใหม่ของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ระบาดลดลง จากการศึกษาพบว่าผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยไม่ได้ตัดสินใจซื้อในทันที ยังคงต้องการสัมผัสสินค้าตัวจริงที่หน้าร้านอยู่ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ เพราะฉะนั้นธุรกิจร้านค้าปลีกต่าง ๆ ต้องพร้อมที่จะรองรับการบริการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

4.ธุรกิจกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ

เนื่องจากราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดความต้องการประหยัดพลังงานพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้นวัตกรรมประหยัดพลังงานยังคงมาแรง เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น แบตเตอรี่ เหล็ก แผงโซลาร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน เช่น เซ็นเซอร์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน หม้อหุงข้าวเชื่อมสมาร์ทโฟน

5.ธุรกิจคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง ธุรกิจคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศที่มีสังคมที่รักสัตว์เลี้ยงอย่างมาก โดยมีสาเหตุหลักคือ

5.1การเปลี่ยนแปลงสังคม : สังคมของปัจจุบันมีความเห็นใจและสนับสนุนที่มากขึ้นต่อการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งส่งผลให้มีจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น

       5.2การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภค : ผู้คนส่วนใหญ่มีความต้องการที่จะให้อาหารสัตว์เลี้ยงของพวกเขามีคุณภาพและเป็นสุขภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการพัฒนาสูตรอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพอาหารของพวกเขา

5.3การพัฒนาเทคโนโลยี : การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้มากขึ้น

6.ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเพื่อความบันเทิง

จากการที่รัฐบาลประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ได้ส่งผลให้เกิดการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวในปี 2023 ของไทยจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะเมื่อมีการวางแผนการซื้อวัคซีนอย่างเหมาะสมและมีการควบคุมการแพร่เชื้อที่เหมาะสม และวางมาตรการความปลอดภัยในการเดินทาง

    การศึกษาเทรนด์ธุรกิจนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นวางแผนการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนบนพื้นฐานของโอกาสที่กำลังเกิดขึ้น ทางโรงงานเครื่องสำอางแลโบทานิก มีทีมงานแพทย์เภสัชกรรมไทยและนักวิจัย พร้อมให้คำปรึกษาการพัฒนาสูตรเครื่องสำอางที่ทันต่อเทรนด์ มีประสิทธิภาพ เห็นผลชัดเจน เพื่อการซื้อซ้ำและบอกต่อ ถือเป็นการสนับสนุนความสำเร็จของท่านได้อย่างยั่งยืน

ที่มา : www.ttbbank.com/finbiz